E-Sim คืออะไร?
e-Sim หรือ “Embedded SIM” หรือ “SIM ที่ฝังอยู่ภายในอุปกรณ์”คือ ซิมการ์ดแบบใหม่ที่ฝังอยู่ในอุปกรณ์มือถือและสมาร์ตดีไวซ์ต่างๆ ไม่สามารถถอดออกมาได้
จุดเด่นของ e-Sim คือขนาดที่เล็กมากๆ e-Sim มีขนาดเพียง 5×5 มิลลิเมตร ข้อดีคือ สามารถเชื่อมต่อได้หลายอุปกรณ์ รองรับได้สุงสุด 6 หมายเลขต่ออุปกรณ์( แต่ใช้งานพร้อมกันได้ 1-2 หมายเลขต่ออุปกรณ์ สามารถสลับการใช้งานแต่ละหมายเลขได้ ) คาดว่าในอนาคต e-Sim จะถูกใช้มากขึ้นบนอุปกรณ์มือถือและสินค้ากลุ่ม IOT (Internet of Thing) ที่ต้องเชื่อมต่อและสั่งงานอุปกรณ์ผ่านมือถือ
ส่วนที่น่าจะทำให้หลายคนสนใจใช้ e-Sim มากขึ้นน่าจะเพราะข้อดีที่ e-Sim ถูกฝังอยู่ในอุปกรณ์ ทำให้เวลาเครื่องหายคนที่เก็บได้จะไม่สามารถถอดซิมจากอุปกรณ์ได้ ตราบใดที่ล็อคเครื่องไว้อุปกรณ์นั้นก็ยังเป็นเบอร์ของคุณอยู่ แต่ในข้อดีก็มีข้อเสียเช่นกัน ถ้าคุณใช้ e-Sim แล้วโทรศัพท์เสีย คุณจะไม่สามารถถอดซิมออกมาใส่เครื่องสำรองได้เช่นกัน ต้องไปทำซิมใหม่หรือเปิด e-Sim กับอุปกรณ์เครื่องใหม่ที่ศูนย์เอง
E-sim (Embedded SIM) คืออะไร
Emdedded SIM หรือ eSIM คือ นวัตกรรมซิมการ์ดแบบใหม่ ที่ช่วยลดข้อขำกัดด้านขนาดของซิมการ์ด ซึ่ง eSIM จะมีขนาดเล็กมาก ๆ โดยมีความยาวเพียง 5 มิลลิเมตร และกว้าง 5 มิลลิเมตร เมื่อเทียบระหว่างนาโนซิม กับ eSIM จะเห็นได้ชัดว่า eSIM มีขนาดเล็กกว่ามาก ทั้งนี้ก็เพื่อตอบโจทย์การใช้งานกับอุปกรณ์ในอนาคต ปกติแล้ว eSIM มักจะฝังมากับอุปกรณ์ตั้งแต่กระบวนการผลิต ทำให้ไม่สามารถแกะออกได้ โดย eSIM สามารถทำงานได้เหมือนกับซิมการ์ดปกติทั่วไปทุกอย่าง
E-sim แตกต่างจาก Sim Card อย่างไร?
หลังจากที่ได้รู้กันแล้วว่า eSIM คืออะไร เรามาดูความแตกระหว่างว่า eSIM กับ Sim Card ทั่วไปกันดีกว่า จุดเด่นที่ทำให้ eSIM แตกต่างและได้เปรียบมากกว่าซิมการ์ดทั่วไป คือ สามารถเชื่อมต่อได้หลายอุปกรณ์ โดยสามารถรองรับได้สูงสุดมากถึง 6 หมายเลขโทรศัพท์ต่ออุปกรณ์ (ได้ทุกเครือข่าย ทั้งระบบเติมเงินและระบบรายเดือน) แต่จะสามารถใช้งานพร้อมกันได้เพียงแค่ 1-2 หมายเลขโทรศัพท์เท่านั้น
ทำไม eSim จึงเป็นที่นิยม
นอกจากข้อดีที่สามารถรองรับหมายเลขโทรศัพท์ได้มากถึง 6 หมายเลขต่ออุปกรณ์แล้ว ข้อดีอีกอย่างที่ทำให้หลายคนเลือกใช้ eSIM คือ อีซิมจะฝังมากับเครื่องตั้งแต่กระบวนการผลิต ทำให้เมื่อเกิดเหตุการณ์ทำเครื่องหาย คนที่เก็บได้ก็จะไม่สามารถถอดซิมออกได้ ถือเป็นอีกหนึ่งข้อดีของ eSIM ที่หลายคนให้ความสนใจ
ตรวจสอบมือถือที่รองรับ eSim
ในปัจจุบันมีสมาร์ทโฟนหลายรุ่นที่รองรับ eSIM ซึ่งหลังจากที่ได้รู้ว่า eSIM คืออะไร พร้อมทั้งข้อดีของ eSIM แล้ว หลายคนน่าจะอยากลองใช้ แต่ไม่มั่นใจว่าสมาร์ทโฟนที่ตัวเองใช้อยู่รองรับหรือเปล่า งั้นมาลองดูกันดีกว่า ว่ามีมือถือรุ่นไหนที่รองรับ eSIM บ้าง
Iphone ที่รองรับ E-sim
- iPhone XR
- iPhone XS , iPhone XS Max
- iPhone SE (Gen 3)
- iPhone 11 , iPhone 11 Pro , iPhone 11 Pro Max
- iPhone 12 , iPhone 12 mini , iPhone 12 Pro , iPhone 12 Pro Max
- iPhone 13 , iPhone 13 mini , iPhone 13 Pro , iPhone 13 Pro Max
- iPhone 14 , iPhone 14 Plus , iPhone 14 Pro , iPhone 14 Pro Max
- iPhone 15 , iPhone 15 Plus , iPhone 15 Pro , iPhone 15 Pro Max
Samsung ที่รองรับ E-sim
- Samsung Galaxy Fold
- Samsung Galaxy Z Fold2 5G , Z Fold3
- Samsung Galaxy Z Fold4 5G
- Samsung Galaxy Z Fip , Z Fip 3 5G
- Samsung Galaxy Z Flip3 , ZFlip4 5G
- Samsung Galaxy Note 20, Note 20 Ultra, S20 Ultra 5G
- Samsung Galaxy S20 , S20+ , S20 Ultra 5G
- Samsung Galaxy S21 5G , S21 +5G , S21 Ultra 5G
- Samsung Galaxy S23 5G , S23 +5G , S23 Ultra 5G
Huawei ที่รองรับ E-sim
- Mate XS
- Mate 40 Pro
- P40 Pro
- P40
ขั้นตอนง่ายๆในการขอ E-Sim
สำหรับผู้ที่สนใจอยากลองใช้ eSIM ปัจจุบันมีหลายวิธีที่สามารถทำเพื่อขอรับ eSIM โดยคุณสามารถเลือกได้ตามความ ได้แก่
- ติดต่อศูนย์บริการใกล้บ้านทุกสาขาทั่วประเทศ โดยให้คุณไปติดต่อกับพนักงานตามศูนย์บริการเครือข่ายที่ใช้งาน ทั้งนี้อย่าลืมเตรียมบัตรประจำตัวประชาชนไปด้วยล่ะ
- ดาวน์โหลด eSIM ผ่านหน้าจอสมาร์ทโฟนได้ด้วยตัวเอง โดยระหว่างที่ดาวน์โหลด eSIM เครื่องต้องมีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต โดยสามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านซิมที่อยู่ในเครื่อง หรือ Wi-Fi ก็ได้
- ดาวน์โหลดผ่านแอปพลิเคชัน (ขึ้นอยู่กับเครือข่ายตามการใช้งาน)
คำถามที่พบบ่อย
1. eSim ใช้กับ android ได้ไหม?
eSIM สามารถใช้ร่วมกับระบบ Android ได้ ไม่ว่าจะเป็น Samsung, Huawei, Oppo และ อื่น ๆ ทั้งนี้แนะนำให้คุณรองเช็กว่ารุ่นสมาร์ทโฟนที่ตนเองใช้อยู่รองรับ eSIM หรือไม่
2. เมื่อ e-Sim ถูกฝังอยู่ในเครื่อง เราสามารถยกเลิกได้หรือไม่ ?
คุณสามารถยกเลิก eSIM ได้ตามปกติ โดยแจ้งขอยกเลิกกับศูนย์บริการ เมื่อยกเลิก eSIM แล้ว เบอร์ที่ใช้งานจะถูกเปลี่ยนคืนเป็นซิมการ์ดปกติ
3. esim ควรเป็นเบอร์หลักหรือรอง?
ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์การใช้งานของแต่ละคน โดย eSIM สามารถใช้งานได้เป็นทั้งเบอร์หลักและเบอร์รอง
ที่มา: www.alottechs.com/article/e-sim